หุ้นปันผล 10 อันดับ ตลาดหุ้นไทยปี 2566 ผ่านมาแล้วกว่า 8 เดือน หุ้นกลุ่มปันผล SETHD ยังคงเป็นนิยมจากนักลงทุนเสมอมา และหลายหลักทรัพย์นอกจากมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังโดดเด่นจากผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี ที่ยังคงอยู่ในในแดนบวกได้ ซึ่งได้คัดเลือกมา 10 อันดับ SETHD ที่ราคาวิ่งแรงที่สุด
หุ้นปันผล 10 อันดับ ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +27.45%,ผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ -0.95% ,ราคา ณ 1 ก.ย. 66 ปิด 5.20 บาท (เหลืออัพไซด์ 4.62% จากราคาเป้าหมาย 5.44 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 5.35 / 3.38 บาท , ค่า P/E 17.31 เท่า,มาร์เก็ตแคป 77,723.54 ล้านบาท, อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.22%
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่ดินที่สูงขึ้น หลังจากที่กลับมาเปิดประเทศ และกระแสการย้ายฐานการผลิต ขณะบล.ทิสโก้ มองว่ากำไรสุทธิในครึ่งแรกปีนี้คิดเป็น 28% ของประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัย และคาดการโอนที่ดินเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง พร้อมกำไรจากการอัดฉีดในกลุ่มสินทรัพย์
ธนาคารทหารไทยธนชาต ราคาคืนทุนตั้งแต่ต้นปี 2566 อยู่ที่ +20.57% ราคาคืนทุน 1 สัปดาห์อยู่ที่ -3.41% ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคาปิดที่ 1.70 บาท (ยังมีอัพไซด์เหลือ 2.35% จากราคาเป้าหมาย 1.74 บาท) 52 ปีที่ผ่านมา ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรายสัปดาห์อยู่ที่ 1.80/1.18 บาท P/E 10.03 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 164,671.47 ล้านบาท อัตราเงินปันผลตอบแทนปีปัจจุบัน 4.29%
ธนาคารกสิกรไทยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาคธนาคารโดยพันธบัตรรัฐบาลเป็นหุ้นอันดับ 1 เชื่อภาคธนาคารจะเป็นผู้รับประโยชน์หลักจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ครบกำหนดชำระ ไปจนถึงอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม อย่างไรก็ตามเราคาดว่าภาคธนาคารจะเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยล่าสุด TTB ได้รับคัดเลือกให้คำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่
TCAP ราคาผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2566 อยู่ที่ +18.82% ราคาผลตอบแทน 1 สัปดาห์อยู่ที่ 0.00% ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคาปิดที่ 50.50 บาท (ยังมีอัพไซด์เหลือ 11.88% จากราคาเป้าหมาย 56.50 บาท สูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ) /ราคาต่ำสุด) 52.50 / 37.75 บาท ค่า P/E 9.18 เท่า มูลค่าตลาด 52,954.50 ล้านบาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.14% ตั้งแต่ต้นปี
ได้รับการประเมินว่าเป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นในเรื่องการจ่ายเงินปันผลที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยบล.กรุงศรีพัฒนสินคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2569 จะยังคงเติบโตต่อไป จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นและผลการดำเนินงานของ TTB คาดว่ากำไรสุทธิโดยรวมในปี 2566 อยู่ที่ 6.032 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี ไฮไลท์ TCAP ปี 2566 จ่ายปันผล 3.10 บาท อัตราผลตอบแทนสูงถึง 6.1%
แสนสิริ ราคาคืนทุนตั้งแต่ต้นปี 2566 อยู่ที่ +11.93% ราคาคืนทุน 1 สัปดาห์อยู่ที่ -3.43% และ ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคาปิดที่ 1.97 บาท (ยังมี upside เหลือ 12.18% จากราคาเป้าหมาย 2.21 บาท) The 52 ราคาสูงสุด/ต่ำสุดประจำสัปดาห์อยู่ที่ 2.10/1.09 บาท ค่า P/E 5.18 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 32,433.51 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนเงินปันผลตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.08%
บริษัท สิริ สมาร์ท ไฟว์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SIRI ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอส71 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ S71 จำนวน 6.49 ล้านหุ้น (ร้อยละ 100) จากบริษัท มั่นคงที่อยู่อาศัย จำกัด (มหาชน) (ผู้ถือหุ้นเดิม) เดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ตำบลพระโขนงเหนือ มูลค่ากว่า 830 ล้านบาท
ADVANC ราคาคืนทุนตั้งแต่ต้นปี 2566 อยู่ที่ +10.26% ราคาคืนทุน 1 สัปดาห์อยู่ที่ -1.38% ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคาปิดที่ 215.00 บาท (คงอัพไซด์ไว้ 15.04% จากราคาเป้าหมาย 247.33 บาท) ล่าสุด 52 ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรายสัปดาห์ 228.00/181.50 บาท ค่า P/E 23.40 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 639,455.09 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนเงินปันผลตั้งแต่ต้นปี 3.58%
ADVANC ขายเงินลงทุนทั้งหมดร้อยละ 33.33 ในบริษัท แรบบิท-ไลน์เพย์ จำกัด (RLP) ซึ่งมีบริษัทย่อย บริษัท แอ๊ดวานซ์ เอ็มเพย์ จำกัด หรือ mPAY ดำเนินธุรกิจให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ไลน์แมน (ประเทศไทย) บจก. และผ่านแอปพลิเคชัน LINE ของบริษัท ไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด
KTB ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +9.60%,ผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ +0.52% ,ราคา ณ 1 ก.ย. 66 ปิด 19.40 บาท (เหลืออัพไซด์ 17.63 % จากราคาเป้าหมาย 22.82 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 20.50 / 16.00บาท , ค่า P/E7.37 เท่า,มาร์เก็ตแคป 271,135.59 ล้านบาท, อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.52%
KTB แนวโน้มครึ่งหลังปี 66 ยังมีแนวโน้มขยายตัวในแง่ของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) และส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยธนาคารคงเป้าหมายธุรกิจปี 66 และคาดกำไรไตรมาส 3/66 ยังได้รับผลบวกจาก NIM ที่สูงขึ้น จากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงปลายไตรมาส 2/66
ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +7.76%,ผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ +2.46% ,ราคา ณ 1 ก.ย. 66 ปิด 12.50 บาท (เหลืออัพไซด์ 15.20% จากราคาเป้าหมาย 14.40 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 12.80 / 9.30 บาท , ค่าP/E 7.03 เท่า,มาร์เก็ตแคป 39,323.74ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 5.20%
AP ถูกมองเป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังการระบาดของโควิด-19 ในปี 63 และราคาหุ้นยังน่าสนใจ โบรคฯคาดว่า AP จะมีรายได้จากการขายอสังหาฯ เติบโตแข็งแกร่ง จากแผนขยายกิจการเชิงรุก และกำไรปกติต่อหุ้น น่าจะเติบโตเฉลี่ย 8.2% ในปี 65-67
PTT ตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาคืนทุนอยู่ที่ +5.26% ราคาคืนทุน 1 สัปดาห์อยู่ที่ -1.41% และ ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคาปิดที่ 35.00 บาท (ยังมี upside เหลือ 14.09% จากราคาเป้าหมายที่ 39.93) บาท ในช่วง 52 สัปดาห์) ราคาสูงสุด/ต่ำสุด 37.50/29.50 บาท ค่า P/E 13.38 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 999,704.87 ล้านบาท อัตราเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 5.71%
บริษัทหลักทรัพย์คาดกำไรปกติฟื้นตัวในไตรมาส 3 ปี 2566 เทียบกับไตรมาสก่อน สำหรับธุรกิจก๊าซทั้งสอง สาเหตุมาจากต้นทุนก๊าซที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากราคาก๊าซอ่าวไทยและ LNG ที่ลดลง ตลอดจนการสูญเสียสินค้าคงคลังที่ต่ำในธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นหรือ P&R รวมถึงการฟื้นตัวของอัตรากำไรจากการกลั่นและส่วนต่างของปิโตรเคมีอันเนื่องมาจาก ใช้ของจีนไม่เห็น
ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +2.77%,ผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์อยู่ที่ 0.00% ,ราคา ณ 1 ก.ย. 66 ปิด 102.00 บาท (เหลืออัพไซด์ 7.44% จากราคาเป้าหมาย 109.59 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 104.00 / 89.50 บาท , ค่า P/E11.30 เท่า,มาร์เก็ตแคป 81,665.85 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 7.60%
มติบอร์ดครั้งล่าสุดให้ปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินปันผล จากเดิมจ่ายแค่ปีละครั้ง เพิ่มเป็นจ่ายปีละ 2 ครั้ง ล่าสุดอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 ในอัตรา 2.00 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ก.ย. 2566 และกำหนดจ่ายในวันที่ 22 ก.ย. 2566
ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +2.56%,ผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ -0.50% ,ราคา ณ 1ก.ย. 66 ปิด 50.00 บาท (เหลืออัพไซด์ 7.88% จากราคาเป้าหมาย 53.9 4บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 61.00 / 38.00 บาท , ค่าP/E 14.47 เท่า,มาร์เก็ตแคป 68,657.62 ล้านบาท, อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.60%
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิรวม 2,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,256 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,350 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น58.55%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ 89,297 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตหลังจากหยุดการขยายพอร์ตสินเชื่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด
หุ้นกลุ่มปันผล SETHD ยังคงเป็นนิยมจากนักลงทุนเสมอมา และหลายหลักทรัพย์นอกจากมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แล้ว